Let’s Eat Thailand
Let’s Eat Thailand มีความเป็นมาเป็นไปยังไง แฟนเพจผมหลายๆคน ที่ติดตามกันมานาน อาจจะยังไม่รู้ที่มาที่ไปของ Let’s Eat Thailand กัน ผมเลยทำหน้า About Let’s Eat ขึ้นมา เพื่ออธิบายความเป็นมาเป็นไปให้ได้รู้จักกันมากขึ้น ซึ่งจริงๆแล้ว การทำ About us ก็เป็นส่วนหนึ่งของ Site map ของเวปทั่วๆไปอยู่แล้วครับ
.
.
**** จุดเริ่มต้นของ Let’s Eat ****
.
เริ่มแรกเดิมทีเลย Let’s Eat มีจะเพื่อนผมสมัยมัธยมที่เซนต์คาเบรียล เป็นคนก่อตั้งเพจ Let’s Eat ขึ้นมาใน Facebook ตั้งแต่ปี 2012 แล้วเห็นผมชอบทานอะไรแล้วโพสลงเฟสบุ้คส่วนตัว เลยชวนผมไปเป็นแอดมินของเพจด้วย ซึ่งตอนนั้นมีแฟนเพจยังไม่ถึง 100 คนเลย และมีแอดมิน ที่เป็นเพื่อนของเพื่อนผมประมาณ4-5คน ซึ่งผมไม่รู้จักเลย แอดมินแต่ละคนก็ทยอยโพสสิ่งที่ตัวเองไปทานมาอย่างสนุกสนาน (ปัจจุบันเพื่อนผม “อาจารย์โอ” เป็นอาจารย์สอนธุรกิจการบินอยู่ที่ ม.ธุรกิจบัณฑิตครับ)
.
.
**** การเพิ่มยอด LIKE ของ Let’s Eat ****
.
จนเวลาผ่านไปซักระยะนึง จนเริ่มมีแฟนเพจขึ้นหลัก 100 และหลัก 1,000 แล้วแอดมินก็ค่อยๆหายไปทีละคนสองคน จนเหลือผมคนเดียว ที่ยังคงโพสรีวิวไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง จนแฟนเพจขึ้นหลัก 2,000 คน เป็นช่วงที่ผมดีใจมาก ซึ่งไม่คิดว่าจะมีแฟนเพจเพิ่มขึ้นจนถึง 2,000 คนได้ และช่วงนั้น เป็นครั้งแรก และครั้งเดียวที่ผมซื้อ Like จาก Facebook ผมจำได้ว่า ผมจ่ายไป 600 บาท แล้วมีแฟนเพจเพิ่มขึ้นมาประมาณ 600 คน คือจะตกแล้ว “Like ละ 1 บาท” ซึ่งผมคิดว่า มันไร้สาระไปหน่อย แล้วรู้สึกว่ามันไม่คุ้มเอาเสียเลย หลังจากนั้น ผมก็ไม่ซื้อ Like จากเฟสบุ้คอีกเลย (ซึ่งตอนนี้รู้สึกว่าจะแพงกว่า Like ละ 1 บาทแล้วครับ) ผมก็อาศัยเอาเนื้อหาของการรีวิว เป็นตัวเลือกให้แฟนเพจมากด Like ดีกว่า
.
.
**** การโพสรีวิวของ Let’s Eat ****
.
เริ่มแรกเดิมทีผม เขียนรีวิวไม่เป็นเลย โพสรูปไป เขียนแต่ชื่อร้าน ชื่อเมนูที่ทาน โพสราคา แค่นั้นจริงๆ เขียนไม่เป็นเอาซะเลย เต็มที่ไม่เกิน2บรรทัด จากวันนั้น ก็เริ่มรู้สึกว่าผมมีพัฒนาการการเขียนมากขึ้น มีสาระขึ้น อ่านง่ายขึ้น แต่จะดีหรือไม่ดี ละเอียดหรือไม่ละเอียด เป็นส่วนที่แฟนเพจผม ตอบได้ดีที่สุด ผมพยายามเขียนรีวิวให้มีรูปแบบมากขึ้น มีจุดเริ่มต้น มีบรรยายถึงบรรยากาศบ้าง มีเมนูอาหาร มีพิกัดร้านชัดเจนขึ้น และมีบทสรุปของร้านนั้นๆ ตามคำแนะนำของหลายๆคน เพื่อให้คนอ่านเข้าใจและอ่านง่ายขึ้น
.
.
**** รูปถ่ายนั้น สำคัญไฉน ****
.
“บางทีคนไม่ค่อยอ่านรีวิว แต่ดูรูปอย่างเดียว ถ้ารูปสวยไว้ก่อน คนก็อยากดูรีวิวเรา”
.
1. ผมเริ่มรีวิวมาตั้งแต่ปี 2012 ใช้ iphone 4 ถ่าย ไม่มี compose ใดๆ ถ่ายให้เห็นว่าทานอะไรแค่นั้นเอง ถ่ายให้เห็นหมดครบทั้งจานก็พอแล้วมั้ง?
2. จากนั้นเริ่มมีพัฒนาการใช้กล้อง compact ของ Canon G9 และ G11 รูปที่ได้ก็ดีขึ้นมา”นิดนึง” แต่ก็ยังห่วยแตกอยู่ดี 5555
3. ยุคต่อมาพี่สาวผม มาเรีย ณ ไกลบ้าน เปลี่ยนกล้องใหม่ เป็น Full Frame เลยยก Nikon D90 ให้ผมได้ฝึกปรือฝีมือ พี่ผมบอกว่า บางทีคนไม่ค่อยอ่านรีวิว แต่ดูรูปอย่างเดียว ถ้ารูปสวยไว้ก่อน คนก็อยากดูรีวิวเรา ซึ่งส่วนตัวเคยเรียนวิชา Photo ตั้งแต่ปี 2000 แล้วก็มีกล้อง DSLR ใช้ แต่ก็ถ่ายมั่วๆ เล่นๆไปเรื่อย ตอนได้กล้อง Nikon D90 มามีเลนส์คิท 18-105mm และเลนส์ wide 10-20mm โฟกัสเพี้ยนๆมา ก็ค่อยๆฝึกไปเรื่อย แล้วค่อยๆงอกเลนส์ Fixed 50mm f1.8 / 17-50mm f2.8 และตัวสุดท้ายที่ใช้ติดกล้องอยู่ตลอดก็คือ Fixed 35mm f1.8 มันเป็นช่วงที่ถ่ายอาหารได้ระยะสบายที่สุดสำหรับผม ผมใช้ตัวนี้มาฝึกปรืออยู่นานพอสมควร
4. แล้วก็เริ่มมองหากล้อง Mirrorless เพราะ Nikon D90 ทำเอาผมไปไม่เป็นเลย เวลาถ่ายกลางคืน white Balance เละเทะ ถ่ายแล้วแก้สีก็ยาก ออกทะเลไปหมด ผมเลยไปจัดมือสองมาลองมือก่อน ด้วยกล้อง Sony NEX 5R มี wifi ในตัว ซึ่งผมค่อนข้างสนุกกับมันพอสมควร ผมใช้เลนส์คิทที่ได้มากับกล้อง 18-55mm จนต่อมาก็เรียกร้องหาเลนส์ระยะถนัดของผม คือ fixed 35mm f1.8 มาครอบครองจนได้ แต่กล้องตัวนี้มีข้อด้อยเรื่องการโฟกัสที่ช้า สุดท้ายเลยจัด 30mm f3.5 macro มาเป็นตัวเสริมอีกทีนึง เพื่อที่เวลาถ่าย close up อาหารจะได้ง่ายมือหน่อย
5. Olympus OMD EM 5 mII ตัวล่าสุด กับเลนส์ 12-40mm f2.8 PRO ตัวเดียวน่าจะอยู่หมัดเลยนะครับ แต่ผมว่าสีมันอมเขียวๆ ม่วงๆ แปลกๆ หรือผมยังไม่เข้าที่กับมัน แต่ตัวนี้จะแจ๋วเรื่อง Focus เร็วมากๆ และกันสั่น 5 แกน ผมถ่ายกลางคืน ปล่อยชัตเตอร์สปรดไว้ 2 วิ แบบไม่ใช้ขาตั้งกล้องยังพอไหวครับ ขอฝึกปรือฝีมือกับเจ้าตัวนี้ก่อน ตอนนี้ยังไม่ค่อยชอบสีอยู่ แต่ไม่น่านานเกินรอครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วผมก็ไม่ได้บอกว่า หลังจากเปลี่ยนกล้องมามากมายแล้ว รูปถ่ายผมจะสวย แต่อย่างผมก็เชื่อว่า รูปถ่ายในยุคหลังของ Let’s Eat ดูดีกว่ายุคแรกๆแน่นอน 55555 การถ่ายรูปอาหารของผม ยังคงต้องอาศัยการเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่สิ้นสุดครับ
.
.
**** เริ่มเข้าที่เข้าทาง ****
.
ผมสารภาพเลยว่า ผมเริ่มเขียนรีวิวในเพจนี้มาตั้งแต่ปี 2012 แต่เพิ่งเริ่มจริงจังเมื่อ พฤษภาคม ปี 2014 นี่เอง เริ่มเขียนรีวิวเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น รูปถ่ายเริ่มพอดูได้ขึ้นมาบ้าง ซึ่งในช่วงแรกๆอาจจะมัวแต่ถ่ายรูปให้พื้นหลังละลาย เพราะนึกว่าถ่ายแบบนี้แล้วรูปจะสวย ซึ่งจริงๆแล้วก็มันผิด!!!! ผมเลยค่อยๆปรับเปลี่ยน และเรียนรู้เพิ่มขึ้นจากหลายๆคน เริ่มดูสไตล์การถ่ายจากคนอื่นๆเพิ่มเติมมากขึ้น และเริ่มเขียนรีวิวที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น มีรูปแบบมากขึ้น
.
.
**** นโยบายใหม่ Facebook กับการเปลี่ยนแปลงของ Let’s Eat ****
.
Facebook เริ่มมีนโยบาย ให้คนเห็นโพสน้อยลง (เพื่อที่ว่า facebook จะได้ให้คนซื้อยอดคนเห็นโพส ถือว่าเป็นธุรกิจของเค้า เป็นช่องทางเพิ่มรายได้ของเค้า ก็ว่ากันไม่ได้ครับ ) ซึ่งมันมีผลกับเพจ Let’s Eat ไม่น้อยเลยทีเดียว ผมจำได้ว่าเมื่อก่อน ตอนแฟนเพจมีไม่ถึง 10,000 คน มีคนเห็นโพสผม ประมาณ 70-80% ของจำนวนแฟนเพจทั้งหมด ซึ่งฟีดแบ็คกลับมาที่เพจดีมากๆ แต่พอวันนึง ที่แฟนเพจผมเกิน 10,000 คนปุ้บ คนเห็นโพสของผมมีแค่ 1-10% เท่านั้น ผมเขียนรีวิวทุกรีวิว ไม่ได้เพียงแค่รีวิวแบบปล่อยผ่านไป หรือเพื่อให้มี traffic ในเพจเฟสบุ้คเท่านั้น แต่ผมอยากให้เนื้อหาของการรีวิวของผมเป็นประโยชน์กับคนอ่านมากที่สุด ซึ่งผมรู้สึกว่า ผมต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว
มันจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ผมมีบ้านหลังใหม่ คือเวปนี้ http://www.LetsEatThailand.com หลายๆคนอาจจะเริ่มเห็นผมแชร์โพส เนื้อหาจากหน้านี้ไปหน้าเฟสบุ้คบ้างแล้ว ก็คงจะพอคุ้นๆกันบ้างนะครับ นี่ถือเป็นบ้านหลังใหม่ของ Let’s Eat Thailand ซึ่งผมพยายามจะเพิ่มเนื้อหาแบบเข้มข้นเข้าไปเรื่อยๆ เพื่อคนเข้ามาอ่าน แล้วมีความสุขไปกับมันนะครับ
.
.
**** ไม่เข้าใจ Facebook ****
.
ผมไม่เข้าใจว่า Facebook ใช้อะไรมาตัดสินว่า โพสนี้ต้องมีคนเห็นกี่คน มีคนบอกว่าโพสไหนน่าสนใจ ยอดคนเห็นก็จะเยอะขึ้น แล้ว Facebook รู้ได้ยังไงว่า โพสของผมน่าสนใจขนาดไหน เพราะบางโพสของผมก็มีคนเห็นแค่ 1% บางโพสก็ 10% บางโพสก็ 50% บางโพสก็ 150% ผมงงมากๆกับ Facebook ครับ
.
.
**** รีวิวของ Let’s Eat ****
.
ผมรีวิวไว้หลากหลายทิศทางมากๆ เพื่อเพิ่มยอดแชร์ และยอด LIKE ของเพจผม
1. Facebook : http://www.facebook.com/LetsEatThailand ถึงแม้ยอดคนเห็นโพสจะน้อยลง แต่ก็ถือเป็นหน้าหลักที่ทำให้ผมได้พบปะ แลกเปลี่ยน และพูดคุยเล่นกับแฟนเพจผมทุกคนครับ
2. พันทิป : http://pantip.com/profile/185390 หลายๆรีวิวของผม ผมจะไปโพสในพันทิปด้วย บางโพสก็มียอดแชร์ถึง 5-6หมื่นแชร์ แล้วผมก็เอาลิงค์มาแปะในหน้าเพจในเฟสบุ้คด้วย คนก็ยังช่วยผมแชร์ต่อๆกันออกไปอีก การแชร์ไปมา ทำให้ google รู้จักเพจ Let’s Eat เพิ่มขึ้นครับ ซึ่งเป็นผลดีมากๆกับเพจ
3. วงใน : https://www.wongnai.com/users/04452f52af36493c861aedac4ebc84d4 ผมใช้ user: Deaw’ Danai Sup’ ผมรีวิวให้วงใน ขนานกันไปด้วยครับ ซึ่งผมก็ไม่เคยบอกกล่าวใคร เพราะผมใช้ชื่อส่วนตัว ไม่ได้ใช้ Let’s Eat ซึ่งคนในวงในส่วนใหญ่ ก็แทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมมีเพจรีวิวอาหารอยู่ด้วย แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีคนถามถึงบ้างแล้ว เพราะหลายๆคนจะเห็นจากโพสผมในพันทิป แล้วในรูปแทบมุกรูปของผม จะมีลายน้ำว่า Let’s Eat by Deaw’ Danai Sup’ หรือ © Let’s Eat Thailand แทบทุกรูปไป
4. Youtube : https://www.youtube.com/channel/UC7aIeH8ehehGKVmpGBgDLYg ผมเริ่มมี Channel นี้เมื่อไม่นานมานี้เองครับ อยากอยากทำรีวิวให้สำหรับหลายๆคน ที่อาจจะขี้เกียจอ่านเนื้อหาผม แต่อยากฟังมากกว่า ผมก็เอารูปมาเรียงร้อยต่อกัน แล้วก็ใส่เสียงบรรยายลงไป พร้อมด้วยเพลง ถือว่าทำขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกอีกหนึ่งช่องทางนะครับ
5. Website : http://www.LetsEatThailand.com เป็นอันที่ผมเหนื่อยมากที่สุดในการเริ่มต้น ตอนปี 1999 ผมเคยส่งโปรเจ็คอาจารย์ด้วยการเขียน Website ซึ่งผมต้องเขียนเองทั้งหมด ซึ่งตอนนั้นใช้เวลาในการทำเยอะมากๆ เลยปั้นมันออกมาได้แบบฝีมือนักศึกษา แต่ทั้งหมดก็ได้กลืนหายไป ไม่เหลือแม้ความทรงจำแม้แต่น้อยว่าเขียนยังไง จนตอนนี้มีเวปที่เป็นสำเร็จรูปหลากหลายเจ้าให้เลือก ซึ่งมันก็ทำให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น ผมเลือกใช้ของ WordPress ครับ เพราะดูแล้วมันไม่ยาก แล้วคนทั้วโลกใช้กันเยอะมากๆด้วย ที่ว่าเหนื่อย คือต้องเริ่มเรียนรู้ใหม่ ลองผิดลองถูก ลอง plug in ทั้งหลาย หาข้อมูลจากคนอื่น จนถึงหารูปแบบที่เราอยากได้ กว่าจะลงตัว กว่าจะปั้นเป็นรูปเป็นร่างได้ เหนื่อยใช่เล่นเลย และทั้งหมดก็ต้องขอบคุณ Google สำหรับข้อมูลครับ
.
.
**** ท้ายสุด ****
.
การเขียนรีวิวแต่ละรีวิว ให้ออกมาได้ใช้เวลาเยอะพอสมควรครับ เริ่มจากไปทาน แล้วก็ถ่ายรูปๆๆๆๆ ก็หมดหลายชั่วโมงแล้ว กลับบ้านมานั่งคัดรูป เลือกรูปที่ดีที่สุด ปรับแต่งสีรูป ใส่ลายน้ำ หาข้อมูลร้านเพิ่มเติมจากแหล่งอื่นๆ คิดเนื้อหาที่จะใส่ นึกถึงรสชาติที่ไปทานมา เขียนร่างขึ้นมา แล้วค่อยเริ่มมาประกอบเป็นรูปเป็นร่าง บางรีวิวผมใช้เวลาเป็นวันครับ ผมเขียนรีวิวหลักคนเดียว ถึงแม้ก่อนรีวิวทุกรีวิว ผมจะหาข้อมูลร้านมาเพื่อประกอบการรีวิวแล้ว ก็อาจจะยังมีข้อมูลที่ผิดพลาดไปบ้าง ก็ได้แฟนเพจมาช่วยกันแก้ไข เปลี่ยนแปลงให้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆครับ เพราะจะมำให้รีวิวนั้นสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน (กันยายน 2015) ในเฟสบุ้คมียอดแฟนเพจ 16,000++ คน ส่วนในเวปนี้ มียอด traffic เดือนนึงเกิน 15,000 คน ซึ่งถ้าเทียบกับเวปอื่นๆ หรือเพจอื่นๆ ถือว่าของผม น้อยเอามากๆ แต่ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ผมทำไปแล้วผมมีความสุขกับมันมากๆ ผมไม่ได้มีความสุขเพราะยอดแฟนเพจเยอะขึ้น ผมไม่ได้มีความสุขเพราะยอด traffic ในเวปนี้เยอะกว่าที่คาดหวัง แต่ผมมีความสุขที่มีคนแวะเข้ามาอ่าน (ถึงแม้จะไม่ได้แสดงตัวตน ถึงแม้ว่าไม่ได้กดไลค์ เพราะอาจเห็นว่าข้อมูลรีวิวของผมไม่ดีพอ) หรือ บางคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น เข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เข้ามาให้กำลังใจกัน แค่นั้นผมก็สุขใจ และอิ่มเอมใจมากๆแล้วครับ
ผมขอบคุณทุกคน ที่แวะเวียนเข้ามาอ่านรีวิวของผม จากใจจริงครับ ขอบคุณจริงๆ ทุกคนเป็นแรงบันดาลใจให้ Let’s Eat เดินหน้าต่อไป
ขอบคุณมากครับ
Deaw’ Danai Sup’
Facebook Comments
Views: 16